แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สาระน่ารู้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สาระน่ารู้ แสดงบทความทั้งหมด

แชร์วิธีลบรอยแผลเป็นให้ได้ผล

วิธีลบรอยแผลเป็นให้ได้ผล
รอยแผลเป็นที่เป็นปัญหาจะมีลักษณะของแผลนูนแดง มีสองแบบ คือ hypertrophic และ keloid ซึ่งแตกต่างกันที่แผลแบบ hypertrophic จะ ไม่ไปกินพื้นที่ผิว รอบๆรอยแผลเหมือนกับแผล keloid โดยแผลเป็นสองชนิดนี้มีโอกาสเกิดในคนผิวคล้ำมากกว่าคนผิวขาว ในหัวข้อที่แล้วผมได้เขียนเกี่ยวกับวิธีลดการเกิดรอยแผลเป็นให้น้อยที่สุดไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงวิธีลดรอยแผลเป็นบ้างครับ

โดยทั่วไป การสมานแผลจะใช้เวลาไม่เกิน 14 วัน ซึ่งหากมีการสมานแผลหลังจากนี้ มีเพิ่มโอกาสที่จะเกิดรอยแผล และเป็น hypertrophic และ keloid ได้ การดูแลบาดแผลจึงสำคัญมาก ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็นในท้องตลาดนั้น ค่อนข้างที่จะมีหลากหลายยี่ห้อครับ

ตัวแรกที่คนไทยจำติดหู น่าจะเป็นตระกูล H..... ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนสำคัญ คือ mucopolysaccharide ซึ่งมีคุณสมบัติเกี่ยวกับ การลดการอักเสบ การระคายเคือง และรอยแดง จะมีประโยชน์ในขั้นตอนของการสมานแผลมากกว่าการลบรอยแผลเป็น ถ้าหากนำไปใช้ทาเพื่อลบรอยแผลเป็น อาจจะไม่ได้ผลนะครับ และประโยชน์ของตัว mucopolysaccharide อีกอย่างหนึ่งคือ ใช้ในกรณีแผลฟกช้ำ และ อาการเส้นเลือดขอด ซึ่งมีผลลดการคั่งของเลือดบริเวณนั้นๆครับ

นอกจากนี้ก็มีการค้นพบสารตัวใหม่ของวงการลบรอยแผลเป็น คือ สาร allantoin, cepalin ซึ่งอยู่ในสารสกัดจากหัวหอม (alium cepa) ที่มีคุณสมบัติ ลดรอยแผลเป็น โดยการช่วยสมานแผลและลดการสร้างคอลลาเจน (การทดลองในหลอดทดลองหรือเซลล์เพาะเลี้ยงเท่านั้น ) จึงเป็นที่มาของการพัฒนาเจลหรือครีมสูตรลบรอยต่างๆออกมามากมาย ซึ่งเจลสารสกัดหัวหอมทำหน้าที่ลดการอักเสบ ลดการสร้างคอลลาเจน (ป้องกัน keloid) ช่วยสมานแผล ซึ่งผลการวิจัยของการใช้เจลชนิดนี้แบ่งออกเป็นสองแง่มุมครับ โดยผมแบ่งเป็น

-เปรียบเทียบกลุ่มที่ทาเจลลบรอยแผล กับกลุ่มที่ไม่ทาหรือเนื้อเจลเปล่าๆ >>พบว่ากลุ่มที่ทารอยแผลเป็นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น รอยนูน สภาพรอยแผลโดยรวม
- เปรียบเทียบกลุ่มที่ทาเจลลบรอยแผล กับ petroleum jelly (พวก vaseline) >> พบว่าไม่มีผลแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และซึ่งโดยปกติแผลเป็นจะจางลงเองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

จากงานวิจัยนั้นทำในกลุ่มคนน้อยๆ ประมาณ 20-30 คนเท่านั้น และการสมานแผลยังมีปัจจัยกวนหลายๆอย่างในส่วนตัวบุคคล โดยเฉพาะลักษณะของบาดแผลครับ ซึ่งโดยจริงๆแล้วหลักการของการลดรอยแผลเป็นนั้น คือการทำให้ผิวบริเวณรอยแผลมีความชุ่มชื้น และมีอาการอักเสบน้อยที่สุด รวมถึงหลีกเลี่ยงการสร้างคอลลาเจนที่มากเกินไปซึ่งเป็นสาเหตุของแผลเป็น ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลบรอย ผมแนะนำว่า ให้เลือกตามกำลังการซื้อเลยครับ เพราะถ้ามีเงินหน่อยก็ตัวสารสกัดจากหัวหอม (allium cepa extract) ได้เลยครับ เพราะมีผลทางเภสัชวิทยา เกี่ยวกับการช่วยสมานแผลและโอกาสการเกิดแผลนูนได้ครับ ซึ่งผลดังกล่าวเห็นผลในบางคนเท่านั้นครับ แต่หากรอยแผลอยู่ในตำแหน่งที่เราไม่ซีเรียสมากๆ ทาพวก petroleum jelly ก็พอครับ โดยเน้นย้ำว่าการทาเจลพวกนี้ให้ทาหลังจากที่บาดแผลปิดแล้วนะครับ ห้ามทาตอนแผลเปิดเด็ดขาด ซึ่งก็ประมาณสองสัปดาห์หลังจากเกิดบาดแผลครับ






ถัดมาผมอยากแนะนำวิธีการป้องกันรอยแผล อีกวิธีให้รู้จักคือ silicone gel ซึ่งถือว่าเป็น first line สำหรับการรักษาแผลเป็น โดยในท้องตลาดมีสองชนิดคือ แบบทา และแบบแผ่นแปะ ในการวิจัยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบการใช้ silicone gel แบบทา กับพวกเจลหรือครีมลบรอยแผลเป็น ให้ผลการรักษาความชุ่มชื้นต่อผิวได้พอๆกัน ซึ่งจากหลักการดูแลรอยแผลเป็น คือ ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นให้มากที่สุด จึงสามารถทา silicone gel กับพวกเจลหรือครีมลบรอย แทนกันได้ แต่ตัวที่แนะนำมากที่สุดอีกวิธี คือ การใช้แบบแผ่นแปะ silicone gel จะรักษาความชุ่มชื้นต่อผิวได้ดีกว่า ทำให้สามารถลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นและรอยนูนได้ดี ซึ่งกลไกคาดว่าเกิดจากความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว ลดอัตราการโดนแสง ลดการติดเชื้อ และชะลอการสร้างเซลล์ผิวครับ

สรุปได้ว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ทาหรือแปะ เพื่อลดรอยแผลเป็นนั้น ประสิทธิภาพทางคลินิกพบว่า การทาดีกว่าไม่ทาแน่นอนเนื่องจากการทาเจลหรือครีมช่วยรักษาและเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรักษารอยแผลเป็น
ในปัจจุบันยังถือว่าไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับและสนับสนุนการทา
เจลหรือครีมสารสกัดหัวหอมว่าแตกต่างจาก petrolum jelly อย่างไร และทางการแพทย์จริงๆยังไม่มีการแนะนำให้ใช้เจลสารสกัดจากหัวหอมครับ แต่จากประสบการณ์ตรงของผมแนะนำว่า ให้ทาครับ ทาตัวไหนก็ได้ เอาที่ราคาสบายกระเป๋า เนื่องจากแต่ละยี่ห้อมีปริมาณสารสกัดจากหัวหอมไม่แตกต่างกันมากนัก 12-15% และถ้าบาดแผลค่อนข้างลึก การใช้แผ่นแปะ silicone gel เพื่อป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นนูน จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ ส่วนในกรณีที่เกิดเป็นแผลเป็นขึ้นมานานแล้ว จะรักษาค่อนข้างยากครับ การทาหรือแปะ จะช่วยลดได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหากต้องการลบรอยจริงๆจำเป็นใช้วิธีฉีดสเตียรอยด์ เลเซอร์ หรือวิธีๆทางคลินิกอื่นๆครับ

คำแนะนำ เน้นย้ำอีกที สำหรับแผลเป็น

- รักษาบาดแผลให้หายเร็วที่สุดหลีกเลี่ยงเพื่อลดโอกาสการเกิดแผลเป็น
- แผลเป็นนูนจะสร้างในช่วง 4-8 สัปดาห์ ดังนั้นแนะนำว่าให้ทาติดต่อกันซักประมาณ 12 สัปดาห์ ทาวันละ 2-3 ครั้ง
-ถ้ามีงบเพียงพอผมแนะนำให้ใช้ทั้งสองอย่างคือ silicone gel และเจลสารสกัดหัวหอม ทาสลับกันได้เลย
- ถ้าอยู่ในบริเวณที่ใช้แผ่นแปะได้ แนะนำให้ใช้แผ่นแปะ silicone gel ครับ เนื่องจากลดการโดนแสง และรักษาความชื้นของผิวได้ดีกว่า
วิธีใช้ คือ แปะไว้ทั้งวัน สามารถนำมาล้างและใช้ซ้ำได้ประมาณแผ่นละ 7 วัน สามารถใช้ร่วมกันเจลหัวหอมได้ด้วยครับ
- งบน้อย แนะนำ petroleum jelly ครับ

หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์และนำไปปรับใช้ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นกันนะครับ


ที่มา: http://pantip.com/topic/33441070
https://www.facebook.com/pharmachair?fref=nf

กระทู้เก่าๆ
วิตามินซี ทำให้ผิวขาว จริงหรือ??
http://pantip.com/topic/33385586

>> วิธีรักษาแผลเป็นให้ได้ผล
http://pantip.com/topic/33394096

'พ่อแม่' อาจเป็นคำแรกที่พูดได้ แต่เป็นคนสุดท้ายที่นึกถึง??

* เวลาไม่มีเงิน คนแรกที่คิดถึงคือพ่อและแม่ แต่พอมีเงิน คนแรกที่คิดถึงคือแฟนและเพื่อน
* อยากได้รถ คนแรกที่คิดถึงคือพ่อและแม่ แต่พอมีรถ คนแรกที่จะไปรับคือแฟนและเพื่อน
* ร้านอาหารหรูๆ บรรยากาศคลาสสิก มีไว้สำหรับแฟน และเพื่อน อาหารบนโต๊ะที่บ้านมีสำหรับพ่อและแม่
* โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน ทีวีและสวนหน้าบ้านมีไว้สำหรับพ่อและแม่
* พ่อและแม่คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอนเพื่อความอยู่รอด ลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเน็ตก่อนนอน เพื่อให้หลับฝันดี
* เวลาเรามีความสุข มักจะมองหาแฟนและเพื่อน เวลามีความทุกข์ เราจะมองหาพ่อและแม่
* เวลาประสบความสำเร็จ เรามักจะมองหาแฟนและเพื่อนเพื่อนัดมาฉลอง แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่
* แต่พ่อและแม่กลับเป็นคนที่ถูกลูกมองข้ามไป พ่อและแม่ ทำงานหาเงินให้ลูกได้เรียนสูงๆ แต่ลูกมักเอาเงินไปเที่ยวเล่น
* เวลาแต่งงาน คนที่หาสินสอดคือพ่อและแม่ แต่คนที่มีความสุขคือลูก
* พ่อและแม่ตำหนิตักเตือนบางครั้ง เต็มไปด้วยความหวังดี แต่ลูกกลับคิดว่าสิ่งที่พ่อและแม่พูดนั้นไร้สาระ
* พ่อและแม่ฝ่าฟันปัญหาเป็นร้อยประการเพื่อลูก แต่พอลูกมีปัญหามักคิดได้แต่ท้อถอย หดหู่และอยากตาย
...........คำว่าพ่อหรือแม่ อาจเป็นคำแรกที่เราพูดได้ตั้งแต่เกิด..........
............แล้วคุณเตรียมอะไรไว้ให้พ่อและแม่ของคุณหรือยัง?..........
เขาบอกว่า ถ้าอ่านแล้วนำมาบอกกล่าวก็เท่ากับว่าได้ชี้นำให้ผู้อื่นที่อยู่ใกล้ตัวคุณได้เห็นค่าของความรัก
ที่มา: ตะเกียงส่องใจ

20 ทะเลน่าไป วิวสวย น้ำใส พักผ่อนกายใจช่วงหน้าหนาว

20 ทะเลน่าไป วิวสวย น้ำใส พักผ่อนกายใจช่วงหน้าหนาว
20 ทะเลน่าไป วิวสวย น้ำใส น่าไปพักผ่อนกายใจช่วงหน้าหนาว
          เมื่อถึงฤดูหนาวทีไรขอเดาว่าหลายคนคงเดินทางไปเยือนเมืองหนาวทางภาคเหนือกันแน่ ๆ แต่กระปุกดอทคอมเห็นว่าเมืองหนาวในหลาย ๆ จังหวัดคงแน่นเอี๊ยดไปด้วยผู้คนจนเที่ยวไม่สนุก เลยอยากแหวกแนวพาไปเที่ยวทะเลกันดูบ้าง จะพาไปลัดเลาะเกาะแก่ง เดินชิลชมวิวทะเล พร้อมกับ สูดอากาศ และ อาบแสงแดดริมหาด รับรองได้ว่าคนที่ไปเที่ยวยอดดอยทางภาคเหนือต้องอิจฉาพวกเราอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็มาออกสตาร์ทกันที่แรกเลยค่ะ
อ่าวไทย
          *จังหวัดชลบุรี*
          1. หาดตายาย เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          หาดตายาย เป็นหาดทรายสวยขนาดเล็ก เงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว จุดเด่นของที่นี่คือทะเลสีสวยน้ำใส มีหาดทรายสีขาวสะอาดทอดยาวประมาณ 100 เมตร เหมาะแก่การพักผ่อนนอนเล่นอาบแสงแดดอุ่น ๆ พร้อมกับฟังเสียงคลื่นซัดสาดเข้าฝั่ง และในช่วงหน้าหนาวปลายปีต้นไม้บริเวณรอบ ๆ จะเปลี่ยนเป็นสีส้มสวยงดงามยิ่งนัก
          การเดินทาง : สามารถเดินทางไปเกาะล้านได้ 3 เส้นทาง ได้แก่
          เส้นทางที่ 1 สายบางนา-ตราด ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี ผ่านบางแสน บางพระ ศรีราชา แหลมฉบัง และเข้าสู่เมืองพัทยา
          เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-มีนบุรี-พัทยา ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าสู่เส้นอำเภอบางปะกง เลี้ยวเข้าจังหวัดชลบุรี มุ่งหน้าสู่พัทยา
          เส้นทางที่ 3 สายมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7) ขับตรงไปจนถึงตัวเมืองพัทยา จากเมืองพัทยาไปตามถนนสุขุมวิท ผ่านพัทยาเหนือ พัทยากลาง จนถึงแยกพัทยาใต้ จากนั้นเลี้ยวขวาตามป้าย แล้วตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงจนพบแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายและวิ่งตรงไปตลอด ขึ้นสะพานยกระดับไปจนถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย จากนั้นเดินทางมายังเกาะล้าน (ท่าหน้าบ้าน) โดยหาดตายายถ้าออกมาจากท่าหน้าบ้านจะต้องเลี้ยวขวา ไปตามทางจะมีทางสามแยก ให้เลี้ยวขวาไปตามแยกนั้น (จะมีป้ายบอกว่าไปหาดตายาย) จากนั้นตรงไปตามทางจนสุดก็จะพบกับหาดตายาย ซึ่งจากท่าหน้าบ้านใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 0 3842 7667, 0 3842 8750, 0 3842 3990
          2. เกาะค้างคาว เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
          เกาะค้างคาว เดิมชื่อว่า “เกาะท้ายค้างคาว” เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีความเงียบสงบ ตั้งอยู่เลยปลายแหลมท้ายสุดของเกาะสีชัง มีน้ำทะเลสีสวยใสน่าลงเล่น มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งปะการังและปลาหลากหลายสายพันธุ์ ที่นี่ผู้คนไม่แออัด ไร้แสงสีของเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหนีความวุ่นวายมานอนเอนกาย รับลมทะเลสบาย ๆ ของหน้าหนาวได้ในบรรยากาศสุดโรแมนติก
          การเดินทาง : สามารถเดินทางไปเกาะสีชังได้ 3 เส้นทาง ได้แก่
          เส้นทางที่ 1 ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี ผ่านบางแสน บางพระ และเข้าสู่อำเภอศรีราชา
          เส้นทางที่ 2 เส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี-ศรีราชา ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าสู่อำเภอบางปะกง เลี้ยวเข้าจังหวัดชลบุรี มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีราชา
          เส้นทางที่ 3 สายมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 7) ให้ขับรถตรงไปตามทางตลอด จากนั้นเลี้ยวกลับรถเข้าอำเภอศรีราชา บริเวณสวนเสือศรีราชา เข้าสู่ตัวเมืองศรีราชา เมื่อถึงให้เช่าเรือเหมาลำที่ท่าเรือเกาะลอย ศรีราชา หรือต้องนั่งเรือไปลงที่เกาะสีชังแล้วนั่งเรือต่อไปยังเกาะค้างคาวอีกที
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 0 3842 7667, 0 3842 8750, 0 3842 3990
          3. เกาะขาม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          เกาะขาม เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่ง กองทัพเรือ บนเกาะขามมีหาดใหญ่ ๆ ให้เที่ยว 2 หาด ได้แก่ หาดด้านทิศเหนือและหาดด้านทิศใต้ ซึ่งหาดด้านทิศเหนือจะมีทรายที่ค่อนข้างละเอียด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ เดินชิลในบรรยากาศเย็น ๆ สุดโรแมนติก อีกทั้งยังสามารถเล่นกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ ได้ด้วย ส่วนด้านทิศใต้จะมีหาดทรายที่หยาบ มีหินกรวดมนสีต่าง ๆ โขดหิน และซากปะการังทับถม ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เหมาะสำหรับมาเดินเล่นทอดน่อง นั่งปล่อยอารมณ์มากกว่า นอกจากนี้เกาะขามยังเป็นแหล่งของแนวปะการังอันสมบูรณ์ โดยเฉพาะด้านทิศเหนือของตัวเกาะจะเป็นบริเวณที่มีปะการังที่สวยงามมาก เหมาะแก่การดำน้ำทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก สามารถชมฝูงปลาน้อยใหญ่หลากหลายสีสัน และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ทั้งนี้เกาะขามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่เปิดให้พักแรม สามารถมาเที่ยวแบบไป-กลับได้เท่านั้น
          การเดินทาง : เกาะขามมีระยะทางห่างจากฝั่งประมาณ 9 กิโลเมตร การเดินทางจากฝั่งไปเกาะขาม ลงเรือได้ที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ (ใกล้กับ อบต. แสมสาร และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน) เรือออกจากฝั่งเที่ยวแรก เวลาประมาณ 09.00 น. เรือรับกลับจากเกาะขามเที่ยวแรก เวลาประมาณ 13.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : กองกิจการพลเรือน กองเรือป้องกันฝั่ง ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า โทรศัพท์ 0 3843 2170, 08 9936 9409
          เว็บไซต์ : ทัพเรือภาคที่ 1 และ จังหวัดชลบุรี
          *จังหวัดระยอง*
          4. เกาะมันนอก จังหวัดระยอง
          เกาะมันนอก เป็นเกาะเล็ก ๆ หนึ่งในหมู่เกาะมัน มีพื้นที่ประมาณ 95 ไร่ อยู่ห่างจากเกาะเสม็ดประมาณ 30 กิโลเมตร โดยทางกองทัพเรือให้เอกชนสัมปทานเช่ารีสอร์ท ภายในเกาะมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีน้ำทะเลใส ชายหาดสีขาวนวลทอดตัวยาวเหยียด เหมาะสำหรับมาเดินทอดน่องชมวิวและรับลมทะเล นอกจากนี้ในส่วนของบริเวณใต้ท้องทะเลรอบ ๆ เกาะ ยังมีแนวปะการังสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามได้อีกด้วย
          การเดินทาง : เริ่มจากเส้นทางมอเตอร์เวย์ ออกทางออกบ้านบึง-ชลบุรี ขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (บ้านบึง-แกลง กิโลเมตรที่ 69) จากนั้นขับตรงไปจนถึงสามแยกแกลง ให้เลี้ยวขวาไปทางเมืองระยอง จะเห็นป้ายแหลมแม่พิมพ์ แล้วเลี้ยวซ้าย (ถนนวังหว้า-สุนทรภู่) ขับตรงไปจนสุดทาง ให้เลี้ยวขวาไปทางแหลมแม่พิมพ์ ผ่านอนุสาวรีย์สุนทรภู่จะเห็นป้ายบ้านอ่าวไข่ เลี้ยวซ้ายตามป้ายจะเจอป้ายแหลมตาล จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายจะเจอที่จอดรถเกาะมันนอก
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 0 3865 5420-1, 0 3866 4585
          5. อ่าวหวาย เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          อ่าวหวาย ได้รับการขนานนามว่าเป็นอ่าวที่มีความเงียบสงบและสวยที่สุดบนเกาะเสม็ด มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีความเป็นส่วนตัวสุด ๆ มีจุดเด่นตรงที่หาดทรายมีสีขาวสะอาด เนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า และมีต้นเทียนทะเลที่ขึ้นตลอดแนวชายหาด เหมาะแก่การพักผ่อนทิ้งความเหนื่อยล้าและงานกองโต ดังนั้นใครที่รักความสงบและอยากเก็บบรรยากาศของทะเลในช่วงหน้าหนาวต้องแวะเวียนมาเที่ยวที่นี่
          การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดระยอง ตรงไปประมาณ 19 กิโลเมตร จะถึงท่าเรือบ้านเพ โดยจะต้องต่อเรือจากบ้านเพไปเกาะเสม็ด สามารถลงเรือได้ 2 จุด คือ ท่าเรือหน้าด่าน บริเวณหาดทรายแก้วและอ่าววงเดือน ซึ่งอ่าวหวายอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือหน้าด่าน ระยะทางประมาณ 800 เมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินมาได้หรือจะนั่งรถโดยสารที่จอดรอให้บริการก็ได้
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง โทรศัพท์ 0 3865 5420-1, 0 3866 4585
          *จังหวัดเพชรบุรี* 
          6. หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 
          หาดชะอำ เป็นหาดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นสถานที่สุดคลาสสิกที่ใครต่อใครก็ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาพักผ่อน ซึ่งโดยรอบของชายหาดร่มรื่นไปด้วยเงาต้นสนตลอดทาง มีน้ำทะเลใส หาดทรายขาวสะอาด สามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้หลากหลาย เรียกได้ว่ามาเที่ยวเก็บบรรยากาศแถมยังได้ทำกิจกรรมไปพร้อมกันอีกด้วย ดังนั้นหนาวนี้ห้ามพลาด ! พาคนรู้ใจมาเที่ยวได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่อึดใจจากกรุงเทพฯ เท่านั้น
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปหาดชะอำได้ 2 เส้นทาง คือ
          เส้นทางที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอท่ายาง ถึงสี่แยกชะอำ เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร จนถึงหาดชะอำ
          เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี อำเภอท่ายาง ถึงสี่แยกชะอำเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร จนถึงหาดชะอำ
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6
          *จังหวัดประจวบคีรีขันธ์*
          7. หาดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          หาดหัวหิน แหล่งท่องเที่ยวพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีหาดทรายขาวสะอาดและกว้างยาวสุดสายตา โดยมีหาดยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไปจนจรดเขาตะเกียบ น้ำทะเลบริเวณหน้าชายหาดไม่ลึกมากจึงเชื้อเชิญให้น่ากระโจนลงไปเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง ส่วนบรรยากาศโดยรอบก็มีความเงียบสงบไม่มีถนนเรียบชาดหาดให้รถวิ่งพลุกพล่าน จึงเหมาะสำหรับนั่งผ่อนคลายปล่อยใจไปกับเสียงคลื่นและสายลมของฤดูหนาวเป็นอย่างมาก
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และอำเภอปากท่อ จากนั้นแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ไปจังหวัดเพชรบุรี ให้วิ่งตรงไปตามถนนเพชรเกษมทางที่จะไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 41 กิโลเมตร จะผ่านทางเข้าหาดชะอำทางด้านซ้ายมือ ให้ขับตรงไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตร จะถึงตัวอำเภอหัวหิน จากนั้นสังเกตทางด้านซ้ายมือจะพบกับวัดหัวหิน ให้ขับเลยไปนิดเดียวจะมีแยกซ้ายมือเข้าหาดหัวหิน (เลี้ยวซ้ายที่ซอยหัวหิน 61) ขับตรงไปประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงหาดหัวหิน
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854
          เว็บไซต์ : เที่ยวภาคกลาง และ เฟซบุ๊ก TAT PRACHUAP
          8. ชายหาดปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          ชายหาดปราณบุรี เป็นหาดที่เริ่มตั้งแต่ปากน้ำปราณบริเวณใกล้กับที่ตั้งศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทอดตัวยาวไปทางทิศใต้จนถึงหาดนเรศวรและเขากะโหลก เป็นชายหาดที่มีความสวยงามและมีความเงียบสงบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและเล่นน้ำทะเลในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว นอกจากนี้หากไม่สนใจลงเล่นน้ำสามารถขับรถชมทัศนียภาพของหาดทรายและท้องทะเลที่ถนนเลียบหาดได้ ดังนั้นในช่วงหน้าหนาวนี้อยากแนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวทะเลที่นี่ รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
          การเดินทาง : สามารถเดินทางไปชายหาดปราณบุรีได้ 2 เส้นทาง ได้แก่
          เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านสมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านเพชรบุรีเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ถึงอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อถึงสี่แยกปราณบุรีให้แยกซ้ายผ่านตำบลปราณบุรี แล้วเข้าสู่ตำบลปากน้ำปราณ ระยะทางจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 15 กิโลเมตร
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854
          *จังหวัดตราด*
          9. หาดคลองพร้าว เกาะช้าง จังหวัดตราด
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          หาดคลองพร้าว ตั้งอยู่ถัดจากหาดทรายขาว ห่างจากท่าเรืออ่าวสับปะรดประมาณ 12 กิโลเมตร มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ หาดทรายสวย และมีจุดเด่นตรงที่ความร่มรื่นของทิวมะพร้าว น้ำทะเลใส สามารถทำกิจกรรมกีฬาชายหาดหรือกีฬาทางน้ำต่าง ๆ ได้ และที่สำคัญยังชื่อในเรื่องความงามของพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย ทั้งนี้แนะนำให้มาเที่ยวเกาะช้างในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะคลื่นลมจะสงบ บรรยากาศดี เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปเกาะช้างได้ 2 เส้นทาง ได้แก่
          เส้นทางที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) ขับผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี จนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร
          เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 เส้นทางชลบุรี-บ้านบึง-แกลง และเมื่อถึงอำเภอแกลงให้ขับเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดจันทบุรีไปจนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร หลังจากนั้นเดินทางไปที่ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่เกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล (อ่าวธรรมชาติ) เพื่อข้ามไปฝั่งเกาะช้าง
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0 3959 7259-60
          10. อ่าวขาว เกาะหมาก จังหวัดตราด
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          อ่าวขาว เป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวในการมานอนเอนกายอาบแดด สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมทั้งมีที่พักและร้านอาหารไว้บริการมากมาย และไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือ ยามเย็นจะสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะหมาก นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะระยั้งนอกและเกาะระยั้งในได้อีกด้วย
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปเกาะช้างสามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง คือ
          เส้นทางที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) ขับผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี จนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร
          เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 เส้นทางชลบุรี-บ้านบึง-แกลง และเมื่อถึงอำเภอแกลงให้ขับเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดจันทบุรีไปจนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร ทั้งนี้สามารถเดินทางไปเกาะหมากโดยใช้บริการเรือเร็วโดยสารหรือเรือไม้โดยสาร ซึ่งมีท่าเรือให้บริการอยู่หลายแห่ง สามารถเลือกใช้บริการได้ตามสะดวก
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0 3959 7259-60
          11. อ่าวคลองเจ้า เกาะกูด จังหวัดตราด
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          อ่าวคลองเจ้า เป็นหาดทรายสีขาวนวลทอดตัวยาวกว่า 600 เมตร แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นหาดทรายที่มีความละเอียดที่สุดบนเกาะกูดอีกด้วย โดยรอบร่มรื่นไปด้วยทิวสน เงียบสงบ อากาศดี สามารถเดินชิล ๆ ให้ลมทะเลปะทะหน้าได้อย่างมีความสุข น้ำทะเลไม่ลึกมากสามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย นอกจากนี้ในส่วนด้านหลังของหาดคลองเจ้ายังมีป่าชายเลนสีเขียวขจีให้ชมตลอดสองฝั่งคลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างนิยมเดินทางมาพายเรือคายักเก็บบรรยากาศ พร้อมกันนั้นยังสามารถชมหิ่งห้อยนับพันตัวที่ส่องแสงระยิบระยับตลอดข้างทาง นับเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะโรแมนติกจนคุณอยากจะหยุดหัวใจให้อยู่ที่นี่ไปนาน ๆ เลยทีเดียวล่ะ
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปเกาะช้างได้ 2 เส้นทาง ได้แก่
          เส้นทางที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) ขับผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี จนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร
          เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 เส้นทางชลบุรี-บ้านบึง-แกลง และเมื่อถึงอำเภอแกลงให้ขับเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดจันทบุรีไปจนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร ทั้งนี้สามารถเดินทางไปเกาะกูดโดยใช้บริการเรือต่าง ๆ ที่ท่าเทียบเรือได้ตามสะดวก
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0 3959 7259-60
          *จังหวัดสุราษฎร์ธานี*
          12. เกาะวัวตาหลับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          เกาะวัวตาหลับ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคา ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ ด้านหน้าของที่ทำการฯ เป็นหาดทรายขาวสะอาด มีเม็ดทรายเนื้อเนียนละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสเหมาะแก่การลงเล่นน้ำและดำน้ำดูปะการัง อีกทั้งยังสามารถนอนเล่นพักผ่อนริมหาด หรือจะเดินชิลชมวิวทิวมะพร้าวที่ขึ้นเรียงรายตลอดข้างทางก็ได้ไม่ว่ากัน นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวผาจันทร์จรัส เพื่อชมทัศนียภาพจากมุมสูงของหมู่เกาะบริวารทั้ง 42 เกาะ ที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาว ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในบรรดาจุดชมวิวทั้งหมดได้อีกด้วย
          การเดินทาง : กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 จากนั้นใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โทรศัพท์ 0 7728 6025, 0 7728 0222, 0 7728 6025 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9
          13. หาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          หาดเฉวง ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสมุย ขึ้นชื่อว่าเป็นชายหาดที่ยาวและสวยที่สุดของเกาะสมุยเลยก็ว่าได้ โดยมีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสองช่วง ได้แก่ หาดเฉวงและหาดเฉวงน้อย (อยู่ทางตอนใต้) มีน้ำทะเลสีฟ้าตัดกับหาดทรายสีขาวเนื้อละเอียด พื้นที่ของหาดมีความกว้างขวาง น้ำทะเลไม่ลึกมากสามารถลงเล่นน้ำได้ นับเป็นอีกหาดที่เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ จากนั้นให้ใช้เส้นทางหลวงสายใต้หมายเลข 4 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางต่อไปยังอำเภอดอนสัก เมื่อถึงท่าเรือดอนสักสามารถขับรถลงเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามไปยังเกาะสมุยได้เลย
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9
          14. ทะเลแหวก-เกาะม้า เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          ทะเลแหวก-เกาะม้า เป็นหาดเล็ก ๆ ที่มีความเงียบสงบ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพะงัน โดยมีทางเดินยาวกว่า 350 เมตร เชื่อมจากแม่หาดของเกาะพะงันไปยังเกาะม้า ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงที่ระดับน้ำลดต่ำลง จะสามารถมองเห็นสันทรายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถเดินไปมาถึงกันได้ นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นชมวิว เก็บบรรยากาศรอบ ๆ ได้ ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้ทะเลแหวกที่อื่นเลยทีเดียว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีแนวปะการังน้ำตื้นที่มีความสวยงาม ตลอดจนฝูงปลาน้อยใหญ่ที่ต่างแหวกว่ายอวดโฉมกันไปมาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอีกด้วย
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงชุมพร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จนถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมระยะทางประมาณ 685 กิโลเมตร การเดินทางจากสุราษฎร์ธานีไปเกาะพะงันมีบริษัทเรือให้บริการอยู่หลายบริษัท สามารถขึ้นเรือได้หลายจุด ทั้งท่าเรือดอนสัก ท่าเรือหน้าทอน และท่าเรือบ้านดอน
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9
          15. หาดทรายรี เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          หาดทรายรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจ โดยมีชายหาดทอดตัวยาวกว่า 2 กิโลเมตร บรรยากาศโดยรอบมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว มีหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต เนื้อทรายเนียนละเอียดนุ่มเท้า อีกทั้งยังมีแนวปะการังและหินที่แตกต่างกันดูสวยงดงามแปลกตา จึงทำให้หาดแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและได้รับการขนานนามว่าเป็นหาดที่มีความสวยงามมากที่สุดของเกาะเต่าอีกด้วย นอกจากนี้หากต้องการความเงียบสงบสามารถเดินไปบริเวณปลายหาดทางด้านทิศเหนือได้ ซึ่งจะมีความเงียบสงบมากกว่า มากกว่านั้นยังสามารถชื่นชมทัศนียภาพบริเวณจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเกาะนางยวนและแสงสุดท้ายของวันได้อย่างสวยงามอีกด้วย
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงชุมพร หรือหากต้องการไปสุราษฎร์ธานี ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 41 จากชุมพร ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา ไปจนถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมระยะทางประมาณ 685 กิโลเมตร โดยหาดทรายรีอยู่ถัดจากหาดแม่หาด สามารถเดินจากท่าเรือไปทางทิศเหนือ เลยจากแหลม จ.ป.ร.ไป
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9
          16. เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
          เกาะนางยวน ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า ห่างกันประมาณ 480 เมตร นับเป็น 1 ใน 10 เกาะที่สวยที่สุดในโลกเลยทีเดียว เกาะนางยวนเป็นเกาะที่มีแนวหาดทรายเชื่อมเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยปะการังและปลาสวยงามน้อยใหญ่หลากหลายชนิด มีจุดดำน้ำที่สวยงามระดับโลก ตลอดจนมีจุดชมวิวบนเขาที่สามารถชมเกาะนางยวนได้ทั้งเกาะ หรือจะเลือกไปเดินทะเลแหวกในยามบ่ายเพราะจะมีสันทรายโผล่ขึ้นมาให้เห็น สามารถไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศเอาไปอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลกันได้ รับรองว่าหลายคนจะต้องอิจฉาทริปนี้ของคุณอย่างแน่นอน
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางพุทธมณฑล นครปฐม-เพชรบุรี หรือเส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (หมายเลข 35) แล้วแยกที่อำเภอปากท่อ เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมืองชุมพร ตามทางหลวงหมายเลข 327 ไปจนเชื่อมต่อเข้ากับทางหลวงหมายเลข 4001 เมื่อเจอแยกหอนาฬิกาเลี้ยวซ้ายไปทางสะพานท่ายาง เมื่อเจอทางแยกให้ไปทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ขับผ่านอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรไปจนพบกับท่าเรือทุ่งมะขามน้อย โดยต่อเรือของบริษัทเรือเร็วลมพระยาจากท่าเรือสู่เกาะนางยวน ซึ่งเรือจะออกวันละ 2 รอบคือ 10.30 น. และ 13.30 น. ทั้งนี้เกาะนางยวนเป็นเกาะส่วนตัวจะปิดในเวลา 16.30 น.
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9
อันดามัน
          *จังหวัดระนอง*
          17. อ่าวเขาควาย เกาะพยาม จังหวัดระนอง
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          อ่าวเขาควาย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพยาม ลักษณะของอ่าวมีความโค้งงุ้มเข้าเหมือนกับเขาควาย 2 ข้าง มีโขดหินอยู่ตรงกลาง โดยหาดมีความยาวประมาณ 3.5 กิโลเมตร และมีจุดเด่นตรงที่มีหาดทรายสีขาว เนื้อทรายละเอียดมากจนขึ้นชื่อว่าเป็นอ่าวที่สวยงามที่สุดในเกาะพยามเลยทีเดียว น้ำทะเลที่นี่มีความใสสะอาด นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ ขอแนะนำว่าควรเล่นน้ำเวลาน้ำขึ้นจะสะดวกกว่า และในยามน้ำลงจะสามารถมองเห็นชายหาดที่ทอดยาวออกไปไกลเป็นภาพที่สวยงดงามยิ่งนัก นอกจากนี้อ่าวเขาควายยังมีป่าโกงกางที่อุดมสมบรูณ์ ตลอดจนเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งด้วย
          การเดินทาง : สามารถเดินทางโดยเรือหางยาว ลงเรือที่ท่าเทียบเรือชาวเกาะ ถนนสะพานปลา (ทางเข้าท่าเทียบเรือติดกับสถานีตำรวจภูธร ตำบลปากน้ำ จังหวัดระนอง) มีเรือบริการวันละ 2 เที่ยว เวลา 09.30 น. และ 14.00 น. (เรือเมล์) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง และเวลา 10.00 น. 14.30 น. (เรือสปีดโบ๊ท) ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร (ชุมพร ระนอง) โทรศัพท์ 0 7750 1821-2, 0 7750 2775-6
          *จังหวัดภูเก็ต* 
          18. เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          เกาะเฮ หรือ คอรัลไอแลนด์ (Coral Island) เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากชายฝั่งภูเก็ตประมาณ 10 กิโลเมตร ถือเป็นเกาะสวรรค์สุดฮิตอีกแห่งหนึ่งเนื่องจากสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวก อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ มีผืนทรายอันนุ่มเนียนละเอียด ผสานกับท้องทะเลสีฟ้าครามงดงามตา โดดเด่นด้วยปะการังน้ำตื้นหลากหลายสีสันที่ยังคงความสมบูรณ์ พร้อมกับสัมผัสกับฝูงปลาน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นไข่มุกแห่งอันดามันได้ดีที่สุด ทั้งนี้นักท่องเที่ยวท่านไหนที่อยากสัมผัสกับโลกใต้ทะเลแบบใกล้ชิดแนะนำให้ดำน้ำแบบสนอร์เกิล หรือจะเลือกสนุกสนานไปกับกิจกรรมอื่น ๆ บนเกาะได้ตามใจชอบ
          การเดินทาง : เริ่มต้นจากเกาะภูเก็ตเดินทางมาที่อ่าวฉลอง ที่นี่จะมีเรือให้เช่าเหมาลำ มีทั้งเรือสปีดโบ๊ทและเรือหางยาว โดยเรือสปีดโบ๊ทจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที ส่วนเรือหางยาวจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเลือกใช้บริการแพ็กเกจทัวร์แบบวันเดียว โดยจะเข้าไปเที่ยวในตอนเช้าและกลับเข้าเมืองภูเก็ตในตอนเย็น
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต โทรศัพท์  0 7621 2213, 0 7621 1036
          19. เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          เกาะไม้ท่อน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต เป็นเกาะส่วนตัวเล็ก ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับท่อนไม้ พร้อมกับมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะแก่การจูงมือคนรักหรือครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างมาก แถมยังได้รับสมญานามว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” เพราะมีหาดทรายสีขาวทอดยาว เคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสีฟ้าสวยใสราวกับกระจก จนสามารถมองเห็นฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายได้อย่างชัดเจน และหากวันไหนโชคดีก็จะได้พบกับโลมาผิวมันเงาโผล่ขึ้นมาเล่นเกรียวคลื่นอีกด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสภาพป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนมีปะการังที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก เรียกได้ว่าหนาวนี้ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลก็สามารถสัมผัสกับบรรยากาศสไตล์เมืองนอกได้แล้ว
          การเดินทาง : เกาะไม้ท่อนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต อยู่ห่างจากภูเก็ตประมาณ 9 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต (อ่าวมะขาม) ไปยังเกาะโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ไม้ท่อนรีสอร์ท โทรศัพท์ 0 7639 1159 (สำนักงานที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต) หรือ โทรศัพท์ 0 7621 4954-8 (บนเกาะไม้ท่อน)
          *จังหวัดกระบี่*
          20. หาดบากันเตียง เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
เที่ยวทะเลหน้าหนาว
          หาดบากันเตียง เป็นหาดสวยงามที่มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร มีความเงียบสงบ และเป็นสุดยอดความงามของหาดทรายเกาะลันตาโดยแท้ น้ำทะเลสีฟ้าใส มีหาดทรายกว้างเม็ดทรายสีขาวสะอาดเล็กละเอียด ยิ่งยามแสงแดดสาดส่องลงไปกระทบยิ่งจะส่องประกายแวววาวสวยงดงามยิ่งนัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จะมาเล่นน้ำ นั่งทอดอารมณ์ ชมธรรมชาติ หรือจะนอนอ่านหนังสือเล่มโปรดก็มีความสุขได้ไม่แพ้กัน
          การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ต้องขับรถไปยังท่าเรือหัวหิน จังหวัดกระบี่ เพื่อข้ามแพขนานยนต์ไปเกาะลันตา โดยเริ่มต้นจากการใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร สู่อำเภอไชยา อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ระยะทางประมาณ 814 กิโลเมตร จากอำเภอเมืองกระบี่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ไปทางอำเภอคลองท่อมจนถึงบ้านหัวหิน สามารถนำรถลงเรือได้ที่ท่าเทียบแพขนานยนต์บ้านหัวหินไปเกาะลันตาน้อย และข้ามแพไปอีกครั้งเพื่อไปยังเกาะลันตาใหญ่ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น. โดยต้องลงแพขนานยนต์ 2 ช่วงคือ บ้านหัวหิน-เกาะลันตาน้อย และเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่
          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา โทรศัพท์ 0 7566 0711-2 หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 7562 2163, 0 7561 2811-2
          หนาวนี้ ว่างเว้นจากชั่วโมงเร่งด่วนเมื่อไหร่ อยากให้สะกิดชวนคนรู้ใจหรือคนในครอบครัวไปเปลี่ยนบรรยากาศหาความสำราญนอกบ้าน พักผ่อนชิล ๆ ริมทะเลแทนการเที่ยวภูเขาทางภาคเหนือ รับรองว่าลมทะเลและเกรียวคลื่นจะช่วยให้ฤดูหนาวนี้ของคุณอบอวนไปด้วยรอยยิ้มและความสุขแบบล้นเหลืออย่างแน่นอน

อยากรู้ไหมทำไมบางคนชอบอยู่ ‘ดูไบ’…ลองดูคลิปนี้สิ

ฃ่างภาพและนักถ่ายทำวีดีโอระดับมืออาชีพ Rob Whitworth ได้นำภาพบรรยากาศของเมืองดูไบในรูปแบบ ‘Flow Motion’ ที่ทำให้คลิปมีความน่าตื่นตาตื่นใจ ร็อบใช้เวลาถึง 3 เดือนเพื่อถ่ายทำคลิปวีดีโอนี้
ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของร็อบ ทำให้เราได้เห็นภาพเมืองดูไบ เมืองศิวิไลซ์ริมทะเลทราย ในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
dubai-motion-flow01 dubai-motion-flow02 dubai-motion-flow03
มาชมคลิปกันเลยจ้ะ
น่าตื่นตาตื่นใจ ดูแล้วเพลินมากเลยจริงๆ