จากผู้ชายอ้วนดำ ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้วครับ

เพราะสุขภาพดีหาซื้อไม่ได้ อยากได้ต้องออกกำลังกายและกินอาหารที่มีประโยชน์ วันนี้ Sanook! Men ขอพาเพื่อนๆ มาชมอีกหนึ่งตัวอย่าง จากน้ำหนักกว่า 100 กก. ปัจจุบันคุณพัชสามารถก้าวข้ามคำว่าอ้วนดำมาแล้ว ไปชมกันครับว่าคุณพัชทำยังไง ถึงได้เปลี่ยนตัวให้เป็นคนใหม่ที่มีสุขภาพดีแบบนี้
สวัสดีครับ ผมชื่อพัช เมื่อก่อนเคยหนัก 98kg ผมรู้สึกแย่กับตัวเองมากจนผมคิดได้ว่าผมต้องเปลี่ยน มาดูกันครับว่าผมเปลี่ยนยังไง
นี่คืออดีตของผมเด็กอ้วนดำ ตอนนั้นผม ม.1 เล่นวงโย โดนแดด กินไม่เลือก ไม่คิดจะดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตแบบอยู่เพื่อกิน555 ทำให้ผมกลายเป็นหมูที่เหมือนพึ่งผ่านการปิ้งย่างมาใหม่ๆ จนกระทั้งน้ำหนักผมเกือบทะลุ100kg กว่าจะรู้ตัวก็เป็นซะแบบนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าการใช้ชีวิตของผมมันลำบากด้วยบุคลิกของผมทำให้ผมไม่มีความมั่นใจในตัวเองขี้อายไม่กล้าแสดงออก T_Tหลังจากที่ผมผิดหวังมาในหลายๆเรื่องเพราะรูปร่างและหน้าตาของผมทำให้ผมคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมมีโอกาสได้ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นตอนอายุ14 นี่แหละคือโอกาสของผมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
กลับมาอีกรอบต้องทำให้ทุกคนตกใจแต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นใครจะคิดว่าหน้าร้อนญี่ปุ่นมันจะร้อนขนาดนี้ โอ้ยยยยดูผมสิครับจะกลายเป็นนิโกรอยู่แล้ว555 แต่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงก็เริ่มต้นเมื่อผมได้เข้าคลับเคนโด้ของโรงเรียนผมถือโอกาสนี้เป็นการเข้าคอสลดน้ำหนักไปในตัว ช่วงแรกๆก็คิดว่ากรูคิดผิดไหมเนี่ย ชีวิตไม่เคยเหนื่อยอะไรขนาดนี้เลยแค่เรียนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้วหลังเลิกเรียนก็ต้องมาซ้อมคลับ3ชม.ทุกวันไม่เว้นเสาร์อาทิตย์ไม่ว่าจะเป็นช่วงปิดเทอมก็เหอะ
ตอนนั้นอยากกลับบ้านมากรู้สึกคิดผิดไม่อยากผอมแล้วขอยอมแพ้ แต่ก็มีคำพูดหลายๆคำที่ทำให้ผมรู้สึกไม่อยากยอมแพ้เราต้องทำให้คนอื่นเห็นว่าเราทำได้ให้ได้จนเวลาผ่านไปปีกว่าๆน้ำหนักผมลดเหลือ80กว่าๆ ผมก็ปฏิบัติไปเหมือนเดิมจนกระทั้งผมขึ้นม.6ตอนนั้นก็คิดว่าน้ำหนักก็คงเท่าเดิมแหละไม่ลดแล้ว ผมถึงกับตกใจหลักจากไม่ได้ชั่งน้ำน้ำหนักมานานมากกกกก น้ำหนักผมเหลือ 75
ชีวิตดีครับไม่ว่าจะเรื่องความรัก อิอิ รู้สึกภูมิใจมากตอนนั้นที่มีเพื่อนๆและคนรู้จักทักมาว่าเปลี่ยนไปมากจนผมจบม.6กลับไทยมาน้ำหนักเหลือ72kg ตอนนั้นรู้สึกว่าเหมือนเป็นคนใหม่กล้าที่จะไปไหนมากขึ้นกล้าที่จะทำอะไรมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงนะคับนิสัยเดิมที่ไม่เปลี่ยนเลยคือเรื่อง “กิน” ยิ่งเป็นช่วงเข้ามหาลัยวัยเฟรชชี่ด้วย ได้ใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่เจอคนใหม่ๆทำให้ผมเหลวไหลจนน้ำหนักขึ้นเป็น 75kg
ในการใช้ชีวิตในเมืองกรุงนั้นผมรู้สึกว่ามันยากในการทำอะไรหลายๆอย่างมากถ้าผมยังเป็นแบบนี้เหตุการณ์ต่างๆ ประสบการณ์ต่างๆ ที่ผมเจอทำให้ผมท้อหมดกำลังใจแต่ไม่ใช่ว่าผมจะล้มเลิกมันนะครับ ผมกลับเอาสิ่งเหล่าน้ำเป็นจุดมุงหมายเป็นแรงกดดันและกำลังใจให้ผมต้องทำให้ได้มากกว่าเดิม
ผมเริ่มเปลี่ยนชีวิตใหม่อีกครั้งไม่ว่าจะเป็นเลิกเที่ยว เลือกกินอาหาร ออกกำลังกายหนักกว่าเดิม มีระเบียบในการใช้ชีวิต ช่วงแรกผมเข้าฟิตเนสทุกวันวิ่งวันละ40นาทีเล่นเวท40-60นาที กินอาหาร 3 มื้อ ไม่กินจุกจิกเวลาผ่านไป2เดือน น้ำหนักผมเหลือ 70กิโล ตอนนั้นรู้สึกว่าเราทำได้อีกครั้งแต่เราไม่ควรหยุดมันแต่เราต้องทำให้มันมากกว่าเดิม ทุกอย่างมาแล้วกำลังใจก็มาผมเพิ่มเวลาออกกำลังกายมากขึ้นตื่นมาตอนเช้าวิ่ง1ชั่วโมงตอนเย็นก็เล่นเวทอีก2-3ชั่วโมง เลือกกินแต่อาหารคลีน เลี่ยงของมัน ทอด แป้ง หรือมีน้ำตาลเยอะ จนปัจจุบันผมมีน้ำหนัก 67 กิโล จากปกติเมื่อก่อนเอว40กว่าๆตอนนี้เหลือ32ละครับ
นี่เป็นตอนที่ผมน้ำหนักลดลงมาได้ประมาณหนึ่ง ผมก็รู้สึกภูมิใจกับตัวเองนะครับ อย่างน้อยๆ ผมก็สามารถพิชิตมันได้ เจ้าก้อนไขมัน แต่ผมก็ยังต้องพยายามต่อไปเรื่อยๆนะ 555
ผมเป็นคนค่อนข้างดูแลตัวเองครับ จะว่าเจ้าสำอางก็ได้ ผมชอบดูแลหน้า ผิว ชอบแต่งตัว ชอบทุกอย่างที่ทำให้ดูดี แต่ผมก็คงไม่หยุดเพียงเท่านี้เพราะชีวิตคนเราผมคิดว่ามันต้องไม่มีวันหยุดเดินกลับกันคนเราต้องมีการพัฒนาในทุกๆวันเพียงแค่ขอให้เราสู้และไม่ยอมแพ้กับสิ่งที่เราตั้งใจ สิ่งที่ผมผ่านมาเจอมาผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนที่อยากจะเปลี่ยนตัวเองผมอาจจะผ่านอะไรมาหลายๆอย่าง
เสียน้ำตาล้มแล้วล้มอีก เจอคำพูดที่ดูถูกจากคนรอบข้างแต่อยากให้ทุกคนที่มีความตั้งใจอย่าได้ท้อเก็บสิ่งเหล่านั้นคำเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองดีกว่าทำให้คนเหล่านั้นเห็นว่าคุณทำได้ แล้วสักวันหนึ่งคุณจะเป็นคนชนะ
ยังไงผมก็ขอให้กระทู้นี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังคิดจะลดความอ้วน คิดแล้วยังไม่ได้ทำ คิดทำไปแล้วแต่ไม่สำเร็จสักที หรืออาจจะอยู่ระหว่างลดความอ้วนได้มีกำลังใจทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจนะครับ คิดว่าคุณทำเพื่อตัวคุณเองแล้วสิ่งที่ตามมานั้นคือผลกำไรจากสิ่งที่คุณตั้งใจทำ
ไม่ต้องแข่งกับใครครับ แข่งกับตัวเอง เอาชนะใจตัวเอง
ชนะความขี้เกียจ ชนะความอยาก ชนะความท้อแท้
ผมเคยอยู่ในจุดที่ผมรู้สึกแย่กับตัวเอง จนตอนนี้ผมก้าวผ่านมันมา "ผมภูมิใจในตัวเองครับ"
ขอบคุณและสวัสดีครับ พัช
ที่มา: http://men.sanook.com/6821/